ใบหน้าคือสิ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเจอกันเป็นครั้งแรก ใบหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนทุ่มเทดูแล หากใครโชคดีมีใบหน้าที่ได้รูป ได้สัดส่วน ทำให้ดูดีสวยหล่อ แค่ใช้ครีมบำรุง หรือแต่งหน้าเล็กน้อยก็ดูดีแล้ว แต่บางคนอาจต้องทำอะไรที่มากกว่านั้น อย่างเช่น การทำศัลยกรรม ยิ่งใครที่มีปัญหาคางสั้น คางยื่น หรือยาวเกินไปก็ทำให้ใบหน้าผิดสัดส่วน ทำให้ขาดความมั่นใจ การทำศัลยกรรมคาง จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน
การทำศัลยกรรมคาง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ก่อนการทำ คุณจะต้องหาโรงพยาบาล คลินิก ศัลยกรรมตกแต่ง ที่มีคุณภาพมาตรฐานก่อน และจึงเข้าไปปรึกษาแพทย์ดูว่า จะเลือกใช้วัสดุอะไร ผ่าตัดแบบไหน และต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนด้วยว่าสามารถผ่าตัดได้หรือไม่ หลังจากนั้นควรงดยา หรือวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพราะเวลาผ่าตัดแล้วอาจทำให้เลือดหยุดยากนั่นเอง
ประเภทของ การทำศัลยกรรมคาง
ศัลยกรรมคาง จะแบ่งการผ่าตัดออกเป็น 2 ประเภท คือ การผ่าตัดเสริมคางในปาก และการผ่าตัดใต้คาง ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี และข้อเสียต่างกัน อยากเช่น การผ่าตัดเสริมคางในปากจะสามารถซ่อนการมองเห็นแผลเป็นได้ดี แต่เวลาทานอาหารทานได้แต่อาหารอ่อน ๆ งดรสจัด และต้องทำความสะอาดบ่อย สำหรับการผ่าตัดใต้คาง หากผ่าตัดแบบนี้จะดูแลแผลง่ายกว่าแต่ว่าก็เสี่ยงกับการที่แผลอาจเกิดการนูนได้
การทำศัลยกรรมคาง กับการฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน
ศัลยกรรมคางยื่น นอกจากการผ่าตัดแล้ว ยังมีการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมคางด้วย บางคนอาจสงสัยว่า มันมีข้อแตกต่างกันอย่างไร ถ้าคุณฉีดฟิลเลอร์ที่คาง มันจะสลายไปได้ แต่ถ้าผ่าตัดคางจะช่วยให้คางคงรูปเดิมมากกว่า และถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงรูปคาง การผ่าตัดคางจะเปลี่ยนได้ง่ายกว่า แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ก็จะเปลี่ยนแปลงได้ยาก และถ้าต้องเอาวัสดุเสริมคางออก การผ่าตัดจะเอาออกง่ายกว่า แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์จะไม่สามารถเอาออกได้หมด ต้องค่อย ๆ เลาะออก และการฉีดฟิลเลอร์ก็ควบคุมได้ยากกว่าการผ่าตัดเสริมคาง
หลังการทำศัลยกรรมคาง ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
หลังจากที่คุณทำ ศัลยกรรมความงาม เสริมคาง คุณจะต้องเข้าใจเรื่องของการดูแลตนเองด้วย เพื่อให้แผลหายไวขึ้น
- คุณจะต้องนอนให้ศีรษะสูงเพื่อลดอาหารบวม
- ถ้าเลือกการเสริมคางแบบในปากจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ แต่ถ้าผ่าแบบแผลใต้คางห้ามให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 2-3 วัน
- ควรทานอาหารอ่อน ๆ 3-4 อาทิตย์เพื่อไม่ให้ซิลิโคนที่เสริมเคลื่อนผิดตำแหน่ง
- การผ่าตัดคางไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ภายใน 7 วัน หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาพาราได้
นี่คือการดูแลตัวเองเมื่อคุณทำศัลยกรรมปาก ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเลย และคุณสามารถทำได้ด้วยตนเองทั้งหมดนี้คือ เรื่องของ การทำศัลยกรรมคาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของใครหลายคน หากคุณเรียนรู้ และปฏิบัติตาม การศัลยกรรมคางก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และยังเป็นการเสริมบุคลิกสภาพ สร้างความมั่นใจให้คุณได้
สรุป
การทำศัลยกรรมคางเป็นการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นเสริมใบหน้าให้ดูมีมิติสวยงามแต่อย่าลืมดูแลเรื่องความปลอดภัยหลังการทำศัลยกรรมโดยเด็ดขาดด้วยการเลือกอาหารเสริมลดบวมหลังศัลยกรรมอย่าง YENJAI สมุนไพรธรรมชาติสูตรพิเศษลดบวมช้ำหลังทำศัลยกรรม ไม่อันตรายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะทำศัลยกรรมส่วนใดของใบหน้า เราควรมีตัวช่วยสูตรพิเศษ จาก YENJAI และ BAIJAI CAP ทันทีหลังทำศัลยกรรมเพื่อลดอักเสบ, ลดบวมช้ำ, เร่งแผลหาย, ยับยั้งเชื้อโรค และบรรเทาปวดได้เป็นอย่างดี ทั้งก่อนและหลังศัลยกรรม โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบให้เลือกรับประทานง่ายพกพาได้สะดวก
เร่งลดบวม หลังศัลยกรรมด้วย YENJAI
แต่ทุกปัญหาแก้ไขได้ด้วยอาหารเสริมลดบวมหลังศัลยกรรมสูตรธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและยังช่วยแก้ปัญหาการเสริมจมูกลดบวมช้ำได้มากที่สุด และอาหารเสริมที่คุณเลือกต้องใช้ YENJAIอาหารเสริมลดบวมหลังศัลยกรรมจากสมุนไพรธรรมชาติสูตรพิเศษลดบวมช้ำหลังทำศัลยกรรม ไม่อันตรายต่อร่างกาย เราควรมีตัวช่วยสูตรพิเศษ จาก YENJAI และ BAIJAI CAP ทันทีหลังทำศัลยกรรมเพื่อลดอักเสบ, ลดบวมช้ำ, เร่งแผลหาย, ยับยั้งเชื้อโรค และบรรเทาปวดได้เป็นอย่างดี ทั้งก่อนและหลังศัลยกรรม โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบให้เลือกรับประทานง่ายพกพาได้สะดวก
- แคปซูล BAIJAI CAP (ใบบัวบก โสมคน ขมิ้นชัน) สรรพคุณลดบวมช้ำ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี ทานง่ายได้ทุกเวลา
- น้ำใบบัวบก และน้ำฟักทองคั้นแบบสดๆ ดีต่อร่างกายและช่วยรักษาแผล
- ผงใบบัวบก และผงฟักทอง ตัวช่วยลดบวมช้ำเก็บได้นาน พกพาสะดวกทานได้ทุกที่
ผลิตภัณฑ์ น้ำใบบัวบก และ น้ำฟักทอง
ตัวช่วยลดอาการ บวม ช้ำ อักเสบ หลังการผ่าตัดศัลยกรรม
BAIJAI CAP ยาลดบวมช้ำ หลังศัลยกกรรม
ยาลดบวมแบบแคปซูล พกพาง่าย ทานสะดวก
อ้างอิง
[1] https://www.kamolhospital.com/th/service/26/chin-implant
