เทคนิคการเสริมจมูก (Rhinoplasty) ที่แพร่หลายในปัจจุบัน จะเป็นการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเป็นหลัก เพราะวัสดุมีให้เลือกหลายรูปทรง, ผ่าตัดง่าย, ราคาไม่แพง แต่ยังมีคนบางกลุ่ม ที่ไม่เหมาะกับวัสดุชนิดนี้ จึงได้มีการพัฒนา เทคนิคผ่าตัดเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคนขึ้นมา
ทำความรู้จักกับ เทคนิคการเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคน
เป็นเทคนิคศัลยกรรมตกแต่งจมูก ที่สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด เช่น ยกดั้งโด่ง, ยืดปลายจมูก, แก้จมูกเอียง แต่ใช้วัสดุเสริมอื่นแทนซิลิโคน มีข้อดีตรงที่เสี่ยงจมูกทะลุ เสี่ยงแพ้ และเสี่ยงติดเชื้อน้อยกว่า
ผู้ที่เหมาะสำหรับ การเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน
- เคสแก้จมูก
- แพ้ซิลิโคน
- เคยฉีดฟิลเลอร์จมูก
- เนื้อจมูกน้อย ปลายจมูกบาง
- ไม่ต้องการเสี่ยง เปลี่ยนซิลิโคนตอนแก่
วัสดุเสริม สำหรับการศัลยกรรมจมูก โดยไม่ใช้ซิลิโคน
1) การเสริมจมูก ด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง (Autografts)
ข้อดีคือ ร่างกายจะสร้างหลอดเลือดใหม่ เข้าไปเลี้ยงในวัสดุเสริม และสมานแผลอย่างรวดเร็ว จึงใช้เวลาลดบวมช้ำน้อยกว่า และมีโอกาสน้อยมาก ที่ร่างกายจะต่อต้านเนื้อเยื่อตัวเอง แต่ข้อเสียคือ ต้องผ่าตัดเพิ่มอีกตำแหน่ง
◼ Septal cartilage (กระดูกอ่อนแกนกลางจมูก)
นิยมนำมาทำเป็นทรงหยดน้ำ ยืดปลายจมูก ซึ่งต้องใช้วิธีเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อนำผนังกั้นจมูกออกมา
◼ Conchal cartilage (กระดูกอ่อนใบหู)
ตำแหน่งยอดนิยม ที่มักนำมาเสริมปลาย ป้องกันจมูกทะลุ แต่ไม่นิยมใช้เสริมสันจมูก
◼ Costal cartilage (กระดูกอ่อนซี่โครง)
เหมาะสำหรับนำมาเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคนที่สุด เพราะมีความแข็งแรง และเหลาได้หลายรูปทรง แต่ต้องระวังกระดูกโค้งออกด้วย
◼ Diced cartilage (กระดูกอ่อนสับ)
หากมีรอยบุ๋ม หรือข้อบกพร่องเล็ก ๆ แนะนำให้ใช้วิธีการนี้
◼ Temporal fascia (เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อขมับ)
จะนำมาเสริมปลายจมูก หรือใช้ห่อกระดูกอ่อนสับแล้วพันเป็นแท่ง เพื่อวางเสริมสันจมูกก็ได้
◼ Dermofat grafting
เดอร์โมแฟต คือชั้นหนังแท้บวกชั้นไขมันที่อยู่ติดกัน ซึ่งอาจนำมาจากตำแหน่งใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้เนื้อเยื่อบริเวณก้นกบ มาทำศัลยกรรมตกแต่งจมูกแบบไร้ซิลิโคน
◼ ฉีดไขมันจมูก
วิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้การดูดไขมันจากตำแหน่งอื่น มาฉีดเสริมจมูกแทน
2) การเสริมจมูก ด้วยเนื้อเยื่อผู้อื่น (Homografts)
สำหรับคนที่ไม่สามารถเสริมจมูกด้วยซิลิโคนได้ และลังเลใจที่จะต้องใช้เนื้อเยื่อตัวเอง เพราะไม่อยากเจ็บตัวเพิ่ม และไม่ต้องการมีแผลเพิ่มอีกตำแหน่ง อาจเลือกเป็นเนื้อเยื่อจากผู้อื่น มาเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคนก็ได้
◼ Cadaveric costal cartilage (กระดูกอ่อน จากร่างผู้บริจาค)
เจ็บตัวตำแหน่งเดียว แต่มีโอกาสที่จะสลายได้มากกว่าเนื้อเยื่อตนเอง
◼ Cadaveric dermis (ผิวหนังแท้ จากร่างผู้บริจาค)
เนื้อเยื่อเทียม หรือหนังเทียม (Acellular Dermal Matrix, ADM) เป็นโครงสร้างของหนังแท้ที่ค่อนข้างนุ่ม นิยมนำมาเสริมปลายจมูก
3) การเสริมจมูก ด้วยวัสดุสังเคราะห์ (Alloplastic Materials)
มีวัสดุเทียมหลายชนิด ที่สามารถนำมาเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคนได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ได้มากกว่าการใช้เนื้อเยื่อตัวเอง แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ เสี่ยงเกิดพังผืด เสี่ยงจมูกทะลุได้มากกว่า แต่ความเสี่ยงเหล่านี้ ก็อาจน้อยกว่าการใช้ซิลิโคนอยู่ดี
◼ ฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธียอดนิยม เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่าย ราคาจับต้องได้ และทำได้ทันที ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า
◼ Polytetrafluoroethylene (PTFE)
กอร์เท็กซ์ (GORE-TEX®) เป็นวัสดุศัลยกรรมตกแต่งจมูก ที่มีความยืดหยุ่นสูงและยึดเกาะดี เพราะร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อแทรกเข้าไปในวัสดุด้วย
◼ Polyethylene
เม็ดพอร์ (Medpor) เป็นวัสดุที่ค่อนข้างแข็ง และมีรูพรุน เหมาะสำหรับคนที่ต้องทรงจมูกแบบชัดเจน โดดเด่น และติดแน่น
◼ Polycaprolactone mesh (PCL mesh)
กระดูกอ่อนเทียมมีลักษณะเป็นตาข่าย จึงทำให้เนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นใหม่ สามารถแทรกตัว เข้าไปได้ โดยจะสลายตัวหลังจากใส่ประมาณ 3 ปี
อาหารเสริมลดบวมหลังศัลยกรรมจมูก YENJAI ! เพื่อนรู้ใจสายศัลย์
การดูแลหลังศัลยกรรม คือขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยลดเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และทำให้จมูกเข้าที่เร็วขึ้นได้ อย่างการทานอาหารเสริมลดบวมหลังศัลยกรรม YENJAI อันอุดมไปด้วยสารสกัดจากสมุนไพรชั้นดี ออกฤทธิ์ลดอักเสบ, ลดบวมช้ำ, เร่งแผลหาย, ยับยั้งเชื้อโรค และบรรเทาปวดอย่างมีประสิทธิภาพ
มีจำหน่ายในรูปแบบ
- BAIJAI CAP : แคปซูล ประกอบด้วยใบบัวบก โสมคน และขมิ้นชัน
- น้ำคั้นสด : น้ำใบบัวบก, น้ำฟักทอง
- ผงชงดื่ม : ใบบัวบกผง, ฟักทองผง
ผลิตภัณฑ์ น้ำใบบัวบก และ น้ำฟักทอง
ตัวช่วยลดอาการ บวม ช้ำ อักเสบ หลังการผ่าตัดศัลยกรรม


BAIJAI CAP ยาลดบวมช้ำ หลังศัลยกกรรม
ยาลดบวมแบบแคปซูล พกพาง่าย ทานสะดวก

สรุป
การเสริมจมูกไม่ใส่ซิลิโคน แต่ใช้เนื้อเยื่อตนเอง เนื้อเยื่อผู้อื่น และวัสดุสังเคราะห์ชนิดอื่นแทนนั้น มีแนวโน้มที่จะลดเสี่ยงติดเชื้อ ลดเสี่ยงจมูกทะลุ และลดเสี่ยงแพ้ ได้มากกว่าการใช้ซิลิโคน
อ้างอิงจาก
[1] Chen K, Schultz BD, Mattos D, Reish RG. Optimizing the Use of Autografts, Allografts, and Alloplastic Materials in Rhinoplasty. Plast Reconstr Surg. 2022 Sep 1;150(3):675e-683e. doi: 1097/PRS.0000000000009372. Epub 2022 Aug 30. PMID: 36041000.
[2] Koh KS, Choi JW. Ishii CH. Asian facial cosmetic surgery. In: Neligan PC, Rubin JP, Liu DZ, editors. Plastic Surgery: Volume Two: Aesthetic . 4th edition. New York: Elsevier; 2018. p.340-374.
[3] กิดากร กิระนันทวัฒน์. เนรมิต “ทรงจมูก” ให้ สวยเข้ารูป [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย; [เข้าถึงเมื่อ 16 กรกฎาคม 2566 ]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thprs.org/