เปิดเทคนิคทำตาสองชั้นล่าสุด ! พร้อมแนะนำแบบตาสองชั้นสวยๆ สุดฮิต ติดทุกเทรนด์

ชาวเอเชียกว่า 50% มีตาชั้นเดียว ซึ่งหนาเฉลี่ยแค่ 4 – 6 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงทำให้หน้าดูเศร้า ดูง่วง เหมือนคนอมทุกข์ และยังแต่งหน้ายากด้วย ดังนั้นการผ่าตัดทำตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery / Blepharoplasty) จึงได้ความนิยมสูงที่สุดในโซนเอเชีย โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออก

แบบทำตาสองชั้นยอดฮิต ติดเทรนด์

Parallel Eyelids

แบบตาสองชั้นสวยๆ ดูเป็นธรรมชาติสไตล์สายฝอ โดยรอบพับเปลือกตาจะโค้งเรียว ขนานกับขอบตาตลอดแนว หนาประมาณ 8 – 10 มิลลิเมตร ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น คล้ายตาช้าง ซึ่งจะช่วยเติมความสดใส และยังเสริมดวงเสริมเสน่ห์ด้วย

Tapered Eyelids

แบบทำตาสองชั้นสไตล์เอเชีย ฮิตที่สุดในเกาหลี เพราะเข้ากับรูปทรงตาเดิม ที่ค่อนข้างเรียวเล็ก หัวตาปิดมาก เนื้อหนังตาน้อย โดยรอยพับที่หัวตาจะเรียวเล็กที่สุด แล้วยาวขนานไปจนถึงหางตา เหมาะกับคนที่ต้องการลุคแบ๊ว ๆ น่ารักขี้เล่น จิ้มลิ้ม น่าทะนุถนอม

Lateral Flare

เป็นแบบตาสองชั้น ที่ช่วยเสริมความเซ็กซี่ ให้ลุคที่มีเสน่ห์ ดูเย้ายวน โดยเส้นรอบพับของเปลือกตา จะขนานกับตาบนคล้ายสายฝอ แต่ปลายหางตาจะยกขึ้น ซึ่งทรงนี้อาจต้องผ่าตัดยกหางตาร่วมด้วย

Cat Eyes

ตาแมว ตาหงส์ หรือตาทรงอัลมอนด์ (Almond Eyes) ที่สุดของแบบตาสองชั้นสวยๆ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความโฉบเฉี่ยว โดดเด่นสะดุดตา ดูลึกลับน่าค้นหา ช่วยเสริมพลังอำนาจ และความน่าเชื่อถือ โดยเส้นหัวตาจะจิกลง ส่วนหางตาจะโค้งขึ้น มักต้องทำร่วมกับการผ่าตัดเปิดหัวตา หรือหางตาด้วย

เทคนิคศัลยกรรมตาสองชั้น เทรนด์ล่าสุด

ผ่าตัดตาสองชั้นแบบแผลเจาะ

(Mini-Incision Double-Eyelid Blepharoplasty)

► เย็บแผลทีละจุด (Simple Sutures)

เทคนิคทำตาสองชั้น แบบเจาะรูที่หนังตาประมาณ 3 – 6 จุด แล้วเย็บตรึงทีละปมแยกกัน เพื่อให้เกิดรอยพับ เหมาะกับเคสที่เนื้อหนังตาไม่หนา

► เย็บซ่อนปม (Buried Sutures)

ใช้วิธีเย็บซ่อนปมใต้หนังตา สอดไหมวนจากหางตาไปถึงหัวตา ช่วยกระจายแรงดึงได้ดี ผลลัพธ์จะคมชัดสวยงาม ไม่มีรอยแผลเป็น

ผ่าตัดตาสองชั้นแบบแผลเล็ก

(Short-Incision Double-Eyelid Blepharoplasty)

เป็นศัลยกรรมตาสองชั้น ที่เปิดแผลยาว 2 – 5 มิลลิเมตร สามารถนำไขมันออกได้เล็กน้อย เหมาะกับคนที่เปลือกตาหนาไม่มาก และหนังตาไม่ตก

ผ่าตัดตาสองชั้นแบบแผลยาว

(Full-Incision Double-Eyelid Blepharoplasty)

วิธีนี้จะกรีดแผลโค้งยาวตลอดแนว จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้ค่อนข้างครอบคลุม แต่มักทำให้แผลอักเสบ บวมช้ำนาน และตาบวมกว่าวิธีอื่น

► นำไขมันออก

คนที่มีตาสองชั้นแบบหลบใน (Hooded Eyes) หรือชั้นตาชัด หนังตาเยอะ ถ้านำไขมันออกด้วย จะทำให้เห็นตาสองชั้นชัดขึ้น แต่ตำแหน่งนี้คือจุดรับทรัพย์ในทางโหงวเฮ้ง ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนทำ

► จัดเรียงไขมัน

ที่มา : SLC Hospital

การที่ไขมันเปลือกตาอยู่ผิดตำแหน่ง จะทำให้ตาโบ๋ หรือเบ้าตาโหลลึกได้ ดังนั้นจะต้องจัดไขมันในหนังตาใหม่ด้วย

► ตัดหนังตา

คนที่หนังตาหย่อนคล้อย จะดูเหมือนเป็นคนตาบวมตลอดเวลา ซึ่งจะต้องตัดหนังตาส่วนที่เกินออกด้วย เพื่อไม่ให้ตกลงมา ปิดรอยพับเปลือกตาอีก

ผ่าตัดตาสองชั้น พร้อมตัดแต่งหัวตาหรือหางตา

► เปิดหัวตา (Epicanthoplasty)

คนที่มีตาชั้นเดียว ร่วมกับหัวตาปิด จะทำให้ตาดูสั้นและเล็ก หัวตาห่าง ซึ่งการกรีดหัวตาประมาณ 2 มิลลิเมตร จะช่วยให้ตายาวขึ้นได้

► เปิดหางตา (Lateral Canthoplasty)

เหมาะสำหรับคนตาเล็กสั้น ที่ต้องการปรับให้ตายาวเป็นทรงอัลมอนด์ หรือตาหางหงส์ โดยจะต้องกรีดเปิดที่หางตา อาจทำให้บวมช้ำนานกว่าปกติได้

► ยกหางตา (Canthopexy)

สามารถทำควบคู่กับศัลยกรรมตาสองชั้นได้เลย เหมาะกับคนที่ปลายหางตาหนา หรือหางตาตก จนทำให้หน้าดูง่วง หรือแก่เกินวัย

ดูแลตัวเองหลังทำตาสองชั้น ด้วยสมุนไพรลดบวม YENJAI

สมุนไพรลดบวม YENJAI แหล่งรวมสารสกัดชั้นดีจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัยต่อร่างกาย มีใบบัวบก ที่จะช่วยลดอาการหนังตาบวมช้ำ หลังทำศัลยกรรม รวมถึงฟักทองสำหรับลดอักเสบ พร้อมด้วยโสมคนและขมิ้นชัน ที่จะบรรเทาปวด ยับยั้งเชื้อโรค และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน มีสมุนไพรลดบวมให้เลือกทั้งแบบแคปซูล, น้ำใบบัวบก, น้ำฟักทอง และผง Freeze Dry รับรองว่าคุณภาพสูง รสชาติเยี่ยมทุกแบบ !

สรุป

การทำตาสองชั้น ควรเลือกทรงตาให้เหมาะกับรูปตาเดิม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งมีเทคนิคให้เลือกมากมาย จึงควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดก่อนทำ

อ้างอิงจาก

[1]   Suo L, Li J, Fu R, Xie Y, Huang RL. A Four-Step Technique for Creating Individual Double-Eyelid Crease Shapes: A Free-Style Design. Plast Reconstr Surg. 2020 Oct;146(4):756-765. doi: 10.1097/PRS.0000000000007185. PMID: 32590523.

[2]   Jang JW. Double-Eyelid Surgery: Incisional Techniques. In: Jin HR, editor. Aesthetic Plastic Surgery of the East Asian Face. New York: Thieme; 2016. p.162-171

[3]   Codner MA, Burke RM. Blepharoplasty. In: Thorne CH, Chung KC, Gosain AK, Gurtner GC, Mehrara BJ, Rubin JP, et al, editors. Grabb and Smith’s Plastic Surgery. 7th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2014. p.487-500